สถานการณ์ตอนนี้ เรียกว่ากลับมาปกติแล้ว มนุษย์เงินเดือนหลายองค์กรกลับเข้าออฟฟิศ 100% บางที่ Hybrid (เข้าออฟฟิศสลับทำที่บ้าน) บางที่ Work From Home หรือ Work From Anywhere เหมือนเดิม
สำหรับคอนเทนต์นี้หมายถึงเฉพาะตำแหน่งที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้นะคะ เรามาวิเคราะห์กันว่า ปี 2023 WFH ยังจำเป็นอยู่ไหม ? ในเมื่อทุกคนสามารถใช้ชีวิตแบบปกติกันได้แล้ว….
มาย้อนดูงานวิจัยบางส่วนกันค่ะ
1 มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด พบว่าพนักงานมีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น 13%
2 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถาม 45.3% พึงพอใจเพราะมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น
3 มหาวิทยาลัยชิคาโก ระบุว่า ผลิตภาพ (Productivity) ของคนทำงานลดลงจากการ WFH
4 มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า WFH ทำให้ระยะเวลาการทำงานต่อวันเพิ่มขึ้น 8.2% หรือ 48.5 นาที มีประชุมบ่อยขึ้น ทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อน
ตัวอย่างข้อมูลนี้อาจพอสรุปให้เห็นว่า พนักงานทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่เป็นไปได้ว่าต้องใช้เวลานานขึ้น เพราะอุปกรณ์ไม่เอื้ออำนวย ผลิตภาพจึงลดลง และแม้จะมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นแค่ได้เจอหน้ากัน แต่การทำกิจกรรมร่วมกันไม่ได้มีมาก เพราะต้องใช้เวลาอยู่กับงานนานกว่าที่ออฟฟิศ อาจทำให้เกิดความเครียดตามมา แม้จะเลิกงานแล้ว ความคิดก็ยังติดอยู่กับงาน เวลาที่มีให้ครอบครัวจึงไม่ได้มากขึ้นอย่างที่คิด
อย่างไรก็ตาม การทำงานที่ออกมาได้ดีไม่ได้อาศัยแค่ “ทักษะความสามารถ” แต่ต้องมี “ความสุข” มาช่วยส่งเสริมด้วย
เมื่อก่อนการทำงานที่ออฟฟิศเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป การทำงานก็ต้องเปลี่ยนตามทันที ซึ่งพนักงานหลายคนก็พิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาสามารถทำงานออกมาได้ดีหรือดีกว่าเดิมได้จากการ WFH แถมมีความสุขมากขึ้นด้วย และทำมาเกือบ 3 ปี การกลับเข้าออฟฟิศจึงเป็นเรื่องยากไปแล้ว
และหากองค์กรให้ความสุขไม่ได้อีกต่อไป อะไรจะเกิดขึ้น ?
...ผลงานไม่ดีเหมือนเดิม ....มองหาองค์กรใหม่ที่พร้อมให้ความสุขกับเขาได้
กลุ่มคนเหล่านี้มีอยู่ไม่น้อย และมักเป็นผู้ที่มีความสามารถ มีความรับผิดชอบ มีวินัยการทำงานสูง เพราะตระหนักอยู่แล้วว่ามันจะทำให้เขาได้สิทธิ์ตามต้องการ และเทรนด์การคัดเลือกบุคลากรในปีหน้า ก็เน้นคนที่มีศักยภาพมากกว่าประสบการณ์ด้วย
เชื่อว่าอนาคตในปี 2023 และต่อไป WFH น่าจะเป็นรูปแบบการทำงานธรรมดาที่องค์กรต้องมีในตำแหน่งงานที่เหมาะสม เพื่อ Support ความต้องการของคนทำงานให้เกิดความสุข ซึ่งนำมาด้วยผลงานที่ดี และยังสามารถดึงดูดให้คนสนใจสมัครงานมากขึ้นด้วย เนื่องจากคนทำงานยุคต่อไปให้ความสนใจกับเวลาส่วนตัว มีอิสระในการทำงานมากขึ้น
แต่การ WFH ก็มีข้อเสียที่องค์กรต่างกังวลไม่น้อย ทางที่ดีที่สุดคือ ต้อง Win-Win ทั้งคู่ ใจเขาใจเราค่ะ เช่น ผลงานต้องเป็นไปตาม KPI เท่านั้น พนักงานต้องบริหารจัดการตัวเอง ให้ตนได้สิทธิ์ตามต้องการ และองค์กรก็ได้ผลงานตามเป้าหมาย หรือเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดจากการ WFH ด้วยระยะเวลาการทำงานที่นานเกินไป อาจมีนัดประชุมใหญ่ที่ออฟฟิศสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อพบปะกันระหว่างทีมงาน มีอะไรก็คุยให้จบทีเดียว การทำงานก็จะสะดวกและราบรื่นขึ้น เช่นนี้น่าจะเป็นทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดีที่สุดค่ะ
แต่ยังไงแล้ว อนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน พรุ่งนี้อาจมีอะไรเข้ามาเปลี่ยนแปลงในแบบที่คาดไม่ถึงก็ได้ เช่นนั้น HR Buddy จะมาอัปเดตอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณข้อมูล : อาจารย์ พรเทพ พงษ์สง่างาน ที่ปรึกษาอาวุโสด้าน HR และกรรมการ บริษัท เซ็นเมนทอร์ จำกัด ,กรรมการบริหาร APK Management Center
Website : www.senmentor.com
Line : wisebrown
Tel : 081-820-9271
สอบถามเพิ่มเติมสำหรับ HR : 02-514-7474 ต่อ 3
อีเมล : crm@jobbkk.com
Line : @jobbkkvip (อย่าลืมใส่ @)
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด